สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า เพื่อให้เอสเอ็มอีสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ในช่วงภาวะวิกฤติ กระทรวงอุตสาหกรรม โดยกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐขึ้น
กอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ (กอป.) กล่าวว่า กองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ ออกมาตรการเสริมสภาพคล่องด้วยสินเชื่อเงินทุนหมุนเวียนวงเงิน 2,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 2% ต่อปี ตลอดอายุสัญญา ประกอบด้วย 3 โครงการสินเชื่อ จะเปิดให้เอสเอ็มอีที่สนใจยื่นขอรับบริการ ตั้งแต่วันที่ 17 ม.ค.2565 ถึง 31 พ.ค. 2565 หรือจนกว่าวงเงินสินเชื่อจะหมด
เดชา จาตุธนานันท์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะผู้อำนวยการ กอป.กล่าวว่า สำนักงานกองทุนฯ ร่วมกับธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank ดำเนินการวิเคราะห์ และอนุมัติสินเชื่อตามหลักเกณฑ์ของกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ ดังนี้
โครงการสินเชื่อเพิ่มศักยภาพ SME วงเงิน 1,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 2% ต่อปี วงเงินกู้สูงสุด 15 ล้านบาทต่อราย ระยะเวลากู้นานสูงสุด 10 ปี ปลอดชำระเงินต้นสูงสุดไม่เกิน 18 เดือน สำหรับกลุ่มเอสเอ็มอีที่ดำเนินธุรกิจ BCG ได้แก่
1.เกษตรอุตสาหกรรมหรืออาหารแปรรูปที่ใช้เทคโนโลยีชีวภาพ 2.อุตสาหกรรมพลังงานทดแทน 3.อุตสาหกรรมเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ หรือบริการทางการแพทย์ 4.กลุ่มผู้ผลิต/ผู้ใช้เทคโนโลยีหุ่นยนต์หรือระบบอัตโนมัติ และ 5.อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า
โครงการสินเชื่อสร้างโอกาสเสริมสภาพคล่อง SME วงเงิน 500 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 2% ต่อปี วงเงินกู้สูงสุด 2 ล้านบาทต่อราย ระยะเวลากู้นานสูงสุด 7 ปี ปลอดชำระเงินต้นสูงสุดไม่เกิน 12 เดือน สำหรับกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอี 8 กลุ่มธุรกิจ ดังนี้
1.กลุ่มอุตสาหกรรมท่องเที่ยว 2.กลุ่มอุตสาหกรรมเกษตรและอาหารแปรรูป 3.กลุ่มอุตสาหกรรมแฟชั่น 4.กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน 5.กลุ่มอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ 6.กลุ่มอุตสาหกรรมพลาสติก 7.กลุ่มอุตสาหกรรมก่อสร้าง และ 8.กลุ่มอุตสาหกรรมโลจิสติกส์
โครงการสินเชื่อเพื่อฟื้นฟู SME วงเงิน 500 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 2% ต่อปี วงเงินกู้สูงสุด 3 ล้านบาทต่อราย ระยะเวลากู้นานสูงสุด 7 ปี ปลอดชำระเงินต้นสูงสุดไม่เกิน 12 เดือน สำหรับลูกหนี้สินเชื่อของกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ ภายใต้โครงการ 1.สินเชื่อพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ 2.โครงการฟื้นฟูฯ สำหรับ SME คนตัวเล็ก และ 3.โครงการสินเชื่อ SME โตไว ไทยยั่งยืน
นอกจากนี้ ในปีงบประมาณ 2565 ยังได้กำหนดโครงการที่มุ่งเน้นการขับเคลื่อนการนำเทคโนโลยีดิจิทัล หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพภาคอุตสาหกรรมและบริการเบื้องต้นมีผู้ประกอบการเอสเอ็มอีให้ความสนใจและยื่นความประสงค์ขอรับบริการมาแล้วจำนวนหนึ่ง
“คาดว่าจะมีเอสเอ็มอี เข้าถึงแหล่งทุนได้มากกว่า 500 ราย เกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจกว่า 10,000 ล้านบาท รักษาการจ้างงานได้กว่า 3,000 ราย”
ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เวบไซต์ www.thaismefund.com และที่ www.smebank.co.th หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ โทร. 02-354-3310 หรือ E-mail : smefund.service@gmail.com และ Call Center ของ SME D Bank โทร.1357