กระทรวงอุตฯ ปลื้ม ผลการประเมินกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอี

นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ (กอป.) เปิดเผยรายงานผลประเมินการดำเนินงาน ประจำปีบัญชี 2564 ของสำนักงานกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ จาก กรมบัญชีกลาง และ บริษัท ทริส คอร์ปอเรชั่น จำกัด โดยกองทุนฯ มีผลคะแนนเท่ากับ 4.098 คะแนน สูงขึ้นจากปีบัญชีก่อนหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยในปีบัญชี 2564 กองทุนฯ สามารถดำเนินมาตรการด้านสินเชื่อได้ตามเป้าหมาย ควบคู่กับการพัฒนาผู้ประกอบการให้มีผลิตภาพเพิ่มขึ้น และที่สำคัญ คือ การปรับปรุงระบบดิจิทัลเพื่อรองรับการให้บริการกลุ่มเป้าหมาย และใช้ประโยชน์ในการตัดสินใจของผู้บริหารเพื่อกำหนดนโยบายและมาตรการต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

นายกอบชัย กล่าวต่อไปว่า ผลสัมฤทธิ์การดำเนินงานในครั้งนี้ เกิดจากการบริหารนโยบายของคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ ที่ประกอบด้วยผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุน ตลอดจนคณะอนุกรรมการชุดต่าง ๆ ที่ได้ร่วมกันกำหนดนโยบาย และผลักดันการดำเนินงานจนทำให้ผลการประเมินกองทุนฯ สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากมองย้อนกลับไปตั้งแต่ คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2560 เห็นชอบจัดตั้งกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ วงเงิน 20,000 ล้านบาท เพื่อกระตุ้นการลงทุนและเพิ่มสภาพคล่องให้เอสเอ็มอีกลุ่มเป้าหมายตามนโยบายรัฐบาล จนถึงปัจจุบัน กองทุน ฯ ได้ช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ทั้งในส่วนสินเชื่อเพื่อเพิ่มศักยภาพการดำเนินธุรกิจให้กับผู้ประกอบการ SMEs จำนวนกว่า 13,000 กิจการ รวมวงเงินกว่า 19,000 ล้านบาท และยังได้พัฒนาขีดความสามารถของผู้ประกอบการ SMEs ควบคู่ไปด้วยกว่า 5,000 กิจการ ก่อให้เกิดการจ้างงาน สร้างอาชีพ ตลอดจนสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจได้มากกว่า 80,000 ล้านบาท

สำหรับทิศทางการทำงานของกองทุนฯ นายเดชา จาตุธนานันท์ ผู้ตรวจราชการกระทรวง ในฐานะผู้อำนวยการสำนักงานกองทุน เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรมยังคงมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนและพัฒนา SMEs เป้าหมายอย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยยกระดับอุตสาหกรรมไทยด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม เร่งผลักดันให้เกิดธุรกิจในกลุ่ม BCG และอุตสาหกรรม S-Curve ภายในประเทศเพิ่มมากขึ้น รวมถึงการบูรณาการกับหน่วยงานพันธมิตรในการจัดหาช่องทางการตลาดสำหรับผู้ประกอบการ SMEs ซึ่งจะสามารถช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืนได้

ติดต่อสอบถาม